corporatepaperwork.com
สำหรับ Covid-19 หากคุณผลเป็นบวกมันค่อนข้างแน่นอนว่าคุณติดเชื้อ แต่หากผลเป็นลบมันไม่แน่เสมอไป!!!! - จากกรณีที่มีผู้ป่วย Covid-19 ในประเทศไทย ได้รับการตรวจเชื้อจากทางเดินหายใจส่วนบนและผลว่าเป็นลบสามครั้ง แต่อาการเข้าได้กับโรคทำให้ทีมแพทย์ไม่นิ่งนอนใจ ทำการตรวจต่อ และทำเต็มมาตรการการป้องกันการติดเชื้อ จนไม่มีบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อจากในกรณีนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่สังคมให้การชื่นชม หมอแมสไปหาข้อมูลมาเพิ่มและ ขอสรุปข้อมูลดังนี้ค่ะ - สรุปบทความจากวารสาร Mayo Clinic Proceedings - ความไวและจำเพาะของการตรวจ Covid-19 ในขณะนี้ยังไม่มีตัวเลขที่ชัดเจน ผลเป็นลบไม่ได้แปลว่าไม่ติดเชื้อ - เพราะฉะนั้นสิ่งที่น่ากังวล คือคลื่นการติดเชื้อลูกที่สองจากกลุ่มคนที่ติดเชื้อแต่ผลการตรวจพบว่าเป็นลบ!! -หากคุณผลเป็นบวกมันค่อนข้างแน่นอนว่าคุณติดเชื้อ แต่หากผลเป็นลบมันไม่แน่เสมอไป Priya Sampathkumar, M. D., อายุรแพทย์โรคติดเชื้อจาก Mayo clinic ให้ความเห็น - เพราะฉะนั้นผลการตรวจต้องอิงไปกับอาการของผู้ป่วยและประวัติความเสี่ยงเสมอ -ตัวอย่างจากใน California มีการประมาณการว่า จะมีการเพิ่มของการติดเชื้อถึง 50 เปอร์เซ็นต์ใน กลางเดือน พค และที่น่าตกใจคือในประชากร 40ล้านคน ถ้าตรวจทั้งหมด จะพบว่าประมาณ 2ล้านคนที่ติดเชื้อจะมีผลตรวจเป็นลบ!
สวัสดีค่ะ คุณ Sompong, การตรวจหาเชื้อ HIV สามารถทำได้ 3 รูปแบบ คือ 1. การตรวจหาภูมิคุ้มกัน (antibody) หรือ Anti-HIV ซึ่งมีหลายเทคนิควิธี โดยปกติเมื่อร่างกายได้รับเชื้อ จะต้องอาศัยเวลาในการสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อ ซึ่งจะเริ่มตรวจพบหลังติดเชื้อได้ประมาณ 3 สัปดาห์ และตรวจพบได้เกือบ 100% ที่ 12 สัปดาห์ ดังนั้น หากเพิ่งเริ่มมีการติดเชื้อ ผลตรวจ Anti-HIV อาจเป็น negative ( หรือ non-reactive) ได้ จึงต้องรออีก 12 สัปดาห์แล้วตรวจซ้ำ หากผล เป็น negative อีกครั้งแปลว่าไม่มีการติดเชื้อ 2. การตรวจหาส่วนประกอบของเชื้อ HIV ได้แก่ - ตรวจสารพันธุกรรมของเชื้อ HIV (nucleic acid test = NAT) สามารถจะตรวจพบเชื้อได้ภายใน 7-28 วัน หลังรับเชื้อ - ตรวจหาโปรตีนของเชื้อ HIV (p24 antigen testing) สามารถตรวจพบได้ภายใน 5 วันหลังรับเชื้อ แต่มีความไวในการตรวจเจอต่ำกว่าวิธี NAT 3. การตรวจหาภูมิคุ้มกันและตรวจหาส่วนประกอบของเชื้อร่วมกัน ดังนั้นหากคุณ Sompong กังวลใจ อาจเลือกตรวจทั้ง 2 วิธี คือตรวจหาภูมิคุ้มกันและตรวจหาส่วนประกอบของเชื้อร่วมกันค่ะ แนะนำปรึกษาแพทย์เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับรายละเอียดค่ะ
คุณเป็นกลุ่มเสี่ยงหรือยัง? ใครบ้างที่ควรตรวจ ATK วิธีการตรวจ COVID-19 ด้วย ATK กับ RT-PCR ต่างกันอย่างไร? อีกคำถามหนึ่งที่กำลังเป็นที่สงสัยของใครหลายๆ คน ก็คือ ATK หรือ Antigen Test Kit ต่างจากการตรวจด้วยวิธี RT-PCR อย่างไร?
Temperature การผ่าตัดมดลูกออกทั้งหมด TAH Total Abdominal Hysterectomy การทำหมัน TR Tubal Resection การรักษา Tx Treatment โรคประจำตัว U/D Underlying Disorders การติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน URI Upper Respiratory Infection การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ UTI Urinary Tract Infection สัญญาณชีพ V/S Vital Signs การตรวจเลือดเพื่อวินิจฉัยการติดเชื้อซิฟิลิส VDRL Venereal Disease Research Laboratory หัวใจเต้นสั่นพลิ้ว VF Ventricular Fibrillation หัวใจเต้นผิดจังหวะจากห้องส่วนล่าง VT Ventricular Tachycardia ภาพถ่ายด้วยรังสีเอ็กซ์ X-Ray, PPD Röntgen Ray
ดูแลตัวเองอย่างไรให้รอดจากสายพันธุ์โอมิครอน? การจะดูแลตัวเองให้รอดจากโควิดสายพันธุ์โอมิครอนนี้ หมอขอแนะนำให้ฉีด วัคซีนเข็ม 3 Booster Dose โดยแบ่งเป็น 2 กรณี ผู้ที่ไม่เคยฉีดวัคซีนมาก่อนเลย ควรฉีดวัคซีนให้ครบ 2 เข็ม โดยแนะนำให้รับ วัคซีนชนิด mRNA ผู้ที่เคยฉีดวัคซีนมาแล้ว วัคซีนโควิดมีกี่ชนิด? กลุ่มที่ได้รับวัคซีนเชื้อตาย (Inactivated Vaccines) Sinovac + Sinovac Sinopharm + Sinopharm หากรับวัคซีนมานานเกิน 4 สัปดาห์ ขึ้นไป ให้รับวัคซีนเข็ม 3 (Booster Dose) โดยแนะนำให้รับวัคซีนชนิด mRNA กลุ่มที่ได้รับวัคซีนที่ใช้ไวรัสเป็นพาหะ (Viral Vector Vaccines) AstraZeneca + AstraZeneca Sinovac + Astrazeneca หากได้รับวัคซีนมาแล้ว ตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป ให้รับวัคซีนเข็ม 3 (Booster Dose) โดยแนะนำให้รับวัคซีนชนิด mRNA ฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 ฉีดเมื่อไรดี? วิธีการป้องกันตัวเองอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญมากๆ ก็คือการใส่หน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัด และการรักษาระยะห่างจากคนอื่นให้ห่างเกิน 1.
ใช้ Antigen Test Kit หรือ ATK ที่ประกาศว่า ให้ซื้อไว้ตรวจหาเชื้อโควิดได้เอง ก็ทำให้เกิดความสงสัยว่า ถ้ารู้ผลตรวจว่าเป็นบวก (Positive) คือ พบเชื้อ แล้วจะต้องได้อยู่ที่ไหน หรือถ้าเป็นลบ (Negative) ควรทำอะไรต่อ? กรณีได้ผลบวก (Positive) - แจ้งหน่วยบริการหรือสถานพยาบาลใกล้บ้าน และรับฟังคำแนะนำว่า ควรกักตัวที่บ้าน ทำ Home Isolation, Community Isolation หรือส่งตัวเข้าสถานพยาบาล - แยกกักตัวเองจากผู้อื่น เพื่อลดการแพร่เชื้อ โดย แยกห้องน้ำ ของใช้ส่วนตัว หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์เลี้ยง สวม mask ตลอดเวลา สังเกตอาการตัวเอง วัดอุณหภูมิเป็นประจำ ถ้าหายใจลำบากให้รีบติดต่อขอเข้ารักษาในสถานพยาบาล แจ้งคนใกล้ชิดให้รู้ว่ามีความเสี่ยงจากการสัมผัส และควรทดสอบการติดเชื้อต่อไป