corporatepaperwork.com
สำหรับในเพศชาย หากมีระดับฮอร์โมนเพศชายต่ำกว่าปกติในช่วงแตกเนื้อหนุ่ม อาจส่งผลกับการพัฒนาของอวัยวะเพศและถุงอัณฑะ ไม่มีเสียงทุ้มลึก ขนตามตัวหรือหนวดเคราเบาบาง ส่งผลกับขนาดและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ส่งผลกับการพัฒนากระดูกและความแข็งแรงของกระดูก ความรู้สึกทางเพศลดลงแบบไม่ทราบสาเหตุ จำนวนตัวอสุจิลดลง อารมณ์แปรปรวน ไม่มั่นคง เครียดง่ายขึ้น และหากเพศหญิงมีฮอร์โมนเพศชายต่ำเกินไป จะเกิดผลกระทบดังนี้ เช่น ส่งผลกับการทำงานของรังไข่ ส่งผลกับความแข็งแรงของกระดูก ความรู้สึกทางเพศลดลง จะสังเกตุอย่างไรว่ามีฮอร์โมนเพศชายต่ำกว่าปกติ? ลองสังเกตุลักษณะอาการเหล่านี้ อวัยวะเพศไม่แข็งตัวเหมือนเคย ไม่มีเรี่ยวแรง รู้สึกเหมือนพักผ่อนได้ไม่เต็มที่เสียที ความรู้สึกทางเพศถดถอยแบบไม่ทราบสาเหตุ รู้สึกเครียดง่าย และไม่มั่นใจกับทุกเรื่อง อารมณ์แกว่งไปมาผิดปกติ หากมีฮอร์โมนเพศชายมากเกินไปจะเป็นอย่างไร?
คุณอาจเคยเข้าใจว่าฮอร์โมนที่ทำให้ผมร่วงนั้นส่วนใหญ่จะพบมากในเพศชาย แต่ความจริงก็คือฮอร์โมนบางตัวที่มีในเพศหญิงก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ผู้หญิงผมร่วงได้เช่นกัน ฮอร์โมนที่ทำให้ ผมร่วง จริงๆแล้วมีปัจจัยอื่นๆที่สร้างผลกระทบทำให้ฮอร์โมนเปลี่ยนไป ทั้งการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็น ความเครียด, มลภาวะ ต่างๆ ก็อาจ ทำให้เกิดอาการหยุดฮอร์โมนที่ช่วยป้องกัน เส้นผม เราไม่ให้หลุดร่วง มาดูกันว่าฮอร์โมนตัวใดบ้างทำให้เส้นผมหลุดร่าง จน ผมบาง ล้าน 1. ฮอร์โมนเพศชายกับภาวะผมร่วง ฮอร์โมนตัวนี้เป็นฮอร์โมนหลักที่เกี่ยวข้องในการทำให้ผมร่วงเลย จริงๆฮอร์โมนตัวนี้ตามที่เข้าใจกันว่าส่วนใหญ่จะพบในเพศชาย ทำให้ผมหลุดร่วงมากกว่าผู้หญิง แต่ความจริงคือผู้หญิงก็มีฮอร์โมนนี้อยู่ด้วยเช่นกัน เจ้าฮอร์โมนนี้ชื่อว่า dihydrotestosterone หรือ DHT การทำงานของมันคือจะไปยับยั้งการเจริญเติบโตของเส้นผมจากที่เคยงอกใหม่ก็ไม่งอกหรือไปทำให้ผมเก่าไม่มีอาหารหล่อเลี้ยงทำให้ผมค่อยๆเล็ก บาง จนหลุดร่วงในที่สุด การป้องกันไม่ให้ฮอร์โมนตัวนี้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพหรือกดเอาไว้คือ ทานอาหารที่มีเส้นใยมากขึ้นรวมทั้งผลไม้ผักและเมล็ดธัญพืชก็จะช่วยได้ค่ะ 2.
อัปเดตเมื่อ 12 ก. ย. 2564 มีผู้ชายไม่น้อยที่คิดหาวิธีลัดในการเพิ่มความแมนหรือความเป็นชายให้ตัวเอง เช่นการทานอาหารเสริมที่จะเข้าไปเพิ่มฮอร์โมนเพศชายหรือที่เรียกกันว่าเทสโทสเตอโรนโดยตรง หรือแม้กระทั่งยอมเจ็บตัวไปฉีดฮอร์โมนเพศชายที่ว่านี้ บทความนี้จะชวนคุณสุภาพบุรุษทุกท่านมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับฮอร์โมนเพศชาย บทบาทความสำคัญ ระดับฮอร์โมนที่เหมาะสม พร้อมไขปริศนาที่ว่าฮอร์โมนเพศชายสามารถช่วยให้ผู้ชายอย่างเราแมนขึ้นได้จริงหรือไม่ ไปติดตามกันครับ ฮอร์โมนเพศชาย (เทสโทสเตอโรน): ทั้งหมดที่คุณต้องรู้ ฮอร์โมนเพศชาย คืออะไร?
ต่อมไทรอยด์ฮอร์โมนก็มีส่วนทำให้ผมร่วง ฮอร์โมนจากต่อมไทรอยด์ตามที่เรารู้กันมันจะช่วยในการเผาผลาญอาหารโดยตรง แต่ใครจะรู้ว่าเจ้าตัวนี้มันก็อยู่เบื้องหลังของการทำให้ผมร่วง ผมบางได้เช่นกัน เมื่อไหร่ที่คุณมีผิวแห้ง เล็บเปราะ อ่อนเพลีย นั่นเป็นสัญญาณว่าคุณมีความผิดปกติของต่อมไทรอยด์แล้ว สิ่งที่ต้องทำ: ถ้าคุณมีการทดสอบแล้วว่าต่อมไทรอยด์ปกติ นอกจากจะทานยาหรือรักษาตามแพทย์สั่งแล้วควรเพิ่มสารอาหารจากสาหร่ายทะเลสีเขียวที่มีไอโอดีนและเพิ่มธาตุเหล็กด้วยถั่วค่ะ 3.
ออกกำลังกาย ยกน้ำหนัก และลดน้ำหนัก การออกกำลังกายดีกับเราเสมอรวมถึงการช่วยเพิ่มระดับเทสโทสเตอโรนด้วย การยกน้ำหนัก หรือการออกกำลังแบบต้านการออกแรงทุกชนิดจะส่งผลดีเป็นพิเศษ (resistance band, วิดพื้น, sit up, squat) สำหรับการออกกำลังแบบ HIIT ไม่ควรเล่นจนหนักเกินไป เพราะอาจไปลดระดับฮอร์โมนเพศชายลงได้ 2. เลือกทานโปรตีน ไขมัน และ คาร์ปอย่างสมดุล สามสิ่งนี้ช่วยเพิ่มระดับเทสโทสเตอโรนได้อย่างเป็นธรรมชาติ แต่ต้องรักษาสมดุลด้วย ไม่มีอะไรที่มากเกินไปแล้วดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไขมัน ไขมันที่มากเกินไปเป็นศัตรูตัวร้ายของฮอร์โมนเพศชาย เนื่องจากไขมันสามารถเปลี่ยนเทสโทสเตอโรน (ฮอร์โมนเพศชาย) เป็นเอสโตรเจน (ฮอร์โมนเพศหญิง) ได้ - นั่นแปลว่า หากเรากินไขมันมากเกินขนาด เราจะเสียสิ่งที่อยากรักษาไว้ไป และได้สิ่งที่ไม่ต้องการมาแทน 3. ลดความเครียด คอร์ติซอล (Cortisol) หรือ "ฮอร์โมนแห่งความเครียด" เป็นอีกหนึ่งศัตรูตัวร้ายของฮอร์โมนเพศชาย เนื่องจากเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ หากระดับฮอร์โมนเพศชายสูงขึ้น ระดับฮอรโมนคอร์ติซอลจะลดลง ในทางตรงกันข้าม หากระดับฮอรโมนคอร์ติซอลสูงขึ้น ระดับฮอร์โมนเพศชายจะลดลง เช่นกัน ตามฉายาที่มันได้มาเลย, คอร์ติซอล หรือ ฮอร์โมนแห่งความเครียด มันถูกผลิตออกมาเมื่อเราเครียด ทั้งรู้ตัวและไม่รู้ตัว ดังนั้น หากจะกำจัดฮอร์โมนคอร์ติซอล ก็ต้องลดความเครียดลงครับ 4.
แปลงเพศหญิงเป็นชาย ต้องเทคฮอร์โมนชนิดใด? เทคฮอร์โมนเพศ แปลงเพศหญิงเป็นชายมีกี่วิธี?
ข้าวสาลีและโฮลเกรน ข้าวสาลีและโฮลเกรนทุกชนิดมีฮอร์โมนเอสโตรเจนธรรมชาติชนิดไอโซฟลาโวน ซึ่งช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายได้อีกทาง โดยนอกจากข้าวสาลีและโฮลเกรนแล้ว ผักอย่างบรอกโคลีและกะหล่ำม่วงก็มีโฟโตเอสโตรเจนด้วยเช่นกัน 9. แครอต แครอตมีสารลิกแนน โฟโตเอสโตรเจนชนิดหนึ่งที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย ทางโภชนาการจึงจัดแครอตให้เป็นอาหารที่มีฮอร์โมนเพศหญิงด้วย ซึ่งนอกจากแครอทแล้ว ยังมีกะหล่ำ สตรอว์เบอร์รี แอปริคอต และซูกินี ที่เป็นอาหารมีเอสโตรเจนด้วยเหมือนกัน 10.
ฮอร์โมนแบบรับประทาน ข้อดี: สะดวก ไม่เจ็บตัว สามารถรับประทานได้เอง ไม่จำเป็นต้องมาโรงพยาบาล ข้อเสีย: ออกฤทธิ์ระยะสั้นจึงต้องรับประทานต่อเนื่องทุกวัน เพราะถ้าลืมรับประทานยา ระดับฮอร์โมนจะตกลง ส่วนราคาฮอร์โมนแบบรับประทานถือว่า ไม่ถูกไปกว่ายาฉีดเพราะต้องรับประทานบ่อยและรับประทานเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้การรับประทานฮอร์โมนยังมีผลต่อตับและเห็นผลการเปลี่ยนแปลงทางสรีระ "ช้ากว่า" การใช้ฮอร์โมนแบบอื่น 3. ฮอร์โมนแบบทา ข้อดี: สะดวก ไม่เจ็บตัว ไม่จำเป็นต้องมาโรงพยาบาล ข้อเสีย: ออกฤทธิ์ระยะสั้นมากเพียง 24 ชั่วโมงเท่านั้น ต้องทาตามส่วนต่างๆ ของร่างกายทุกวัน โดยเฉพาะบริเวณที่ไม่มีขนปกคลุมเพื่อให้ฮอร์โมนแทรกซึมลงสู่ผิวหนังและออกฤทธิ์ได้ดี เช่น ท้อง หัวไหล่ ท้องแขนด้านใน หลังทาเจลฮอร์โมนยังต้องรอให้เจลแห้งก่อนสวมใส่เสื้อผ้า เพื่อป้องกันการเลอะเทอะ ส่วนราคาฮอร์โมนแบบทาถือว่า "สูง" เพราะต้องใช้ยาทุกวัน 4.