corporatepaperwork.com
การมีธาตุอาหารมากเกินไป ธาตุอาหารที่พืชมีความต้องการในปริมาณเพียงเล็กน้อยเท่านั้นอาจเกิดการสะสมทาให้เกิดความเข้มข้นในเนื้อเยื่อพืชสูงขึ้นจนถึงขั้นเป็นพิษกับพืชเช่นการมีธาตุโบรอนมากเกินไปทำให้พืชเกิดอาการใบเหลืองขึ้นเป็นแห่งๆเนื่องจากขาดคลอโรฟิลล์เริ่มจากปลายใบแล้วจึงลุกลามไปตามขอบใบเกิดการไหม้และใบร่วงหล่นเป็นต้น
ถ้าสภาพดินไม่ดี มีความเป็นกรดหรือด่างสูง จะเกิดการตรึงธาตุอาหารในดิน ทำให้พืชไม่สามารถดูดซึมปุ๋ยในดินไปใช้งานได้ 2. การให้อาหารพืชผ่านวิธีการให้ปุ๋ยทางใบจะมีประสิทธิภาพมากกว่าและได้ผลรวดเร็วมากกว่าการให้ปุ๋ยทางดิน โดยเฉพาะการให้ธาตุอาหารในกลุ่มธาตุอาหารเสริมหรือจุลธาตุ 3. เมื่อพืชเกิดสภาวะวิกฤต เช่นการที่รากพืชมีปัญหา ถูกทำลาย ไม่สามารถดูดน้ำและธาตุอาหารจากดินได้ จึงจำเป็นต้องรับธาตุอาหารจากการฉีดพ่นทางใบช่วย ซึ่งจะเห็นผลอย่างรวดเร็ว 4. ในกรณีที่พืชได้รับไนโตรเจนจากการตกค้างทางดินมากเกินไป พืชจะไม่ออกดอก แต่กลับแตกใบแทน จึงจำเป็นต้องฉีดพ่นทางใบช่วยสร้างตาดอก 5. การใช้ปุ๋ยทางดินจะมีธาตุอาหารที่ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ส่วนใหญ่จะมีแค่ธาตุอาหารหลัก หรือธาตุอาหารรองบางส่วน ทำให้ต้นพืชไม่สามารถเจริญเติบโตและให้ผลผลิตได้อย่างเต็มที่ แต่ถ้าใช้ปุ๋ยใบ G2 หัวเชื้อนาโนชีวภาพ พืชจะได้รับสารอาหารครบถ้วนทั้ง 16 ชนิด รวมทั้งสารเพิ่มประสิทธิภาพและสารป้องกันและไล่แมลงในตัว ทำให้พืชสมบูรณ์แข็งแรง ให้ผลผลิตสูงกว่าและคุณภาพดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งยังลดค่าใช้จ่ายจากการใช้ปุ๋ยและสารเพิ่มประสิทธิภาพอื่นๆ เพราะทั้งหมดนั้นมีธาตุอาหารที่สำคัญสำหรับพืชรวมสมบูรณ์ครบถ้วนอยู่แล้วในปุ๋ยใบ G2 เพียงชนิดเดียว และสามารถใช้ได้กับพืชทุกชนิด
บุญรักษ์ กาญจนวรวณิชย์ ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ ข่าวการจับกุมชาวต่างชาติที่ถูกตั้งข้อหาว่าเกี่ยวพันกับขบวนการก่อการร้าย โดยเนื้อข่าวระบุว่า ชาวต่างชาติผู้นี้มีปุ๋ยเคมีไว้จำนวนมาก ซึ่งตำรวจระบุว่า ปุ๋ยเคมีดังกล่าวเป็นสารประกอบสำหรับทำระเบิด! ตามเนื้อข่าวระบุถึงปุ๋ยยูเรีย (urea, CO(NH 2) 2) และปุ๋ยแอมโมเนียมไนเตรต (ammonium nitrate, NH 4 NO 3) ซึ่งหลายคนทราบดีว่า ปุ๋ยทั้ง 2 ชนิดนี้มีธาตุไนโตรเจน (N) ซึ่งเป็นหนึ่งในธาตุอาหารหลักของพืช คำถามคือ ปุ๋ยเคมีสำหรับบำรุงพืชพันธุ์ไม้เกี่ยวข้องกับระเบิดที่ใช้ทำลายได้อย่างไร? จากธาตุไนโตรเจน ซึ่งพบได้ในปุ๋ยทั้ง 2 ชนิดเกี่ยวข้องกับระเบิดหรือไม่? ในอัฟกานิสถาน ปุ๋ยเคมีในกระสอบเหล่านี้อาจนำไปทำวัตถุระเบิด ไม่ใช่บำรุงพืช ระเบิดปุ๋ย การนำปุ๋ยแอมโมเนียมไนเตรตมาใช้เป็นวัตถุดิบในการทำระเบิดมีมานานแล้วโดยนำไปผสมกับเชื้อเพลิง เนื่องจากระเบิดที่ได้ใช้งานง่าย และมีราคาถูก จึงนิยมใช้มากในเหมืองถ่านหิน เหมืองหิน เหมืองแร่โลหะ และอื่นๆ สำหรับการนำปุ๋ยแอมโมเนียมไนเตรตไปใช้ทำระเบิดเพื่อก่อการร้ายเริ่มครั้งแรกเมื่อปี ค. ศ. 1970 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งปัจจุบันประเทศในแถบตะวันออกกลาง เช่น อัฟกานิสถาน เป็นต้น ก็ยังนิยมทำและใช้อยู่ เนื่องจากระเบิดแบบนี้ใช้ปุ๋ยเคมีเป็นส่วนประกอบ จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า ระเบิดปุ๋ย (fertilizer bomb) การระเบิดของสารแอมโมเนียมไนเตรต องค์ประกอบระเบิด 1.
1. ลักษณะการขาดธาตุอาหารหลัก 1) ขาดธาตุไนโตรเจนพืชจะเจริญเติบโตช้าเนื่องจากขบวนการสร้างโปรตีนของพืชผิดปกติใบแก่ของพืชมีสีเหลืองเพราะคลอโรฟิลลดลงต่อมาใบแห้งและร่วง 2) ขาดธาตุฟอสฟอรัสต้นพืชมีขนาดเล็กลงกว่าปกติใบและต้นพืชอาจกลายเป็นสีเขียวจัดจนถึงสีม่วงเนื่องจากมีการสะสมคาร์โบไฮเดรต (แป้ง) มากเกินไป 3) ขาดธาตุโพแทสเซียมต้นพืชแคระแกรนและมีสีเขียวซีดใบแก่อาจมีจุดแห้งตายหรือขอบใบแห้งใบอ่อนจะมีจุดประสีแดงหรือเหลืองระหว่างเส้นใบผิวใบเป็นมันเลื่อมกว่าปกติ 2. 2 ลักษณะการขาดธาตุอาหารรอง 1) ขาดธาตุกามะถันต้นพืชมีการเจริญเติบโตช้าลงเหลืองทั้งต้นซึ่งมักจะเกิดกับใบอ่อนก่อนใบอ่อนอาจจะมีสีเหลืองบริเวณระหว่างเส้นกลางใบในขณะที่เส้นกลางใบยังเขียวเป็นปกติ 2) ขาดธาตุแคลเซียมพืชมีลาต้นแคระแกรนใบอ่อนมีสีเหลืองซีดไม่มีขอบใบทาให้ใบลีบยอดไม่เจริญเนื้อเยื่อใหม่มีสีเขียวอ่อนและคดงอระบบรากไม่ดีรากสั้นหนา 3) ขาดธาตุแมกนีเซียมใบแก่มีสีเหลืองโดยขอบใบและบริเวณระหว่างเส้นใบมีสีเหลืองเห็นได้ชัดเจนอาจมีสีแดงเกิดตามแถบสีเหลืองบนใบด้วยถ้าพืชขาดธาตุแมกนีเซียมอย่างรุนแรงใบแก่ที่อยู่ตอนล่างของต้นจะตายใบ 2.
คิดค้นวิจัยมาเพื่อใช้ทดแทนปุ๋ยเคมี จึงเป็นการผลิตแบบเกษตรอินทรีย์ เป็นปุ๋ยชีวภาพคุณภาพสูง ดีต่อสุขภาพของเกษตรกรและผู้บริโภค 2. ผสมสารเพิ่มผลผลิตเข้มข้นสูงที่สกัดจากธรรมชาติ ปริมาณและคุณภาพของผลผลิตสูงขึ้น เพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรอีกหลายเท่าตัว 3. เพิ่มความต้านทานโรคและแมลง ลดค่าใช้จ่ายในการใช้ยาฆ่าแมลง 4. อุดมไปด้วยธาตุอาหารหลัก ธาตุอาหารรองและอาหารเสริมมากกว่า 40ชนิด ทำให้พืชได้รับธาตุอาหารอย่างอุดมสมบูรณ์ 5. มีอินทรียวัตถุที่ช่วยปรับโครงสร้างให้ดินสามารถปล่อยธาตุอาหารได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น 6. มีฮอร์โมน Humic Acid ช่วยกระตุ้นการแตกตาในทุกระยะการเจริญเติบโตของพืช 7. เหมาะสำหรับพืชทุกชนิด และในดินทุกประเภท ส่วนประกอบหลักจีทู 1. คีเลต รวมธาตุอาหารสกัดจากการสะสมซากพืชซากสัตว์ใต้ทะเลลึกหลายพันเมตร ด้วยเครื่องมือวิทยาศาตร์ที่ทันสมัย ประกอบด้วย 1. 1 ธาตุอาหารหลัก ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแตสเซียม (N, P, K) 1. 2 ธาตุอาหารรอง แคลเซียม แมกนีเซียม กำมะถัน (Ca, Mg, S) 1. 3 ธาตุอาหารเสริม (จุลธาตุ) เหล็ก สังกะสี ทองแดง แมงกานีส โบรอน โมลิบดินัม คลอรีน (Fe, Zn, Cu, Mn, B, Mo, Cl) 2. โกรทฮอร์โมนจากไข่แดง + เอ็นไซม์ สารเสริมประสิทธิภาพจากแหล่งอาหารที่มีโปรตีนและวิตามินสูง ช่วยในกระบวนการการย่อยสลายและดูดซึมธาตุอาหาร ให้สามารถสะสมอาหารสำหรับการสร้างดอกและผล 3.
เชื้อเพลิง (fuel) เป็นวัตถุที่เกิดการลุกไหม้ 2.
ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับที่มาของแหล่งเศษอาหารที่สามารถนำมาใช้ในการทำปุ๋ย ขั้นที่ 1 กำหนดปัญหาหรือความต้องการ 6. ครูกำหนดปัญหาให้แต่ละกลุ่ม:เราจะนำเศษอาหารมาทำให้เกิดประโยชน์ได้อย่างไร แล้วจึงให้นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันทำปุ๋ยหมักจากเศษอาหาร ขั้นที่ 2 รวบรวมข้อมูล 7. นักเรียนแต่ละกลุ่มสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการทำปุ๋ยจากเศษอาหาร จากแหล่งข้อมูลต่าง เช่น หนังสือ สารสนเทศออนไลน์ ผู้รู้(เกษตรกร) ขั้นที่ 3 เลือกวิธีการ 8. นักเรียนแต่ละกลุ่มพิจารณาเศษอาหารจากแหล่งต่าง ๆ และวิเคราะห์เลือกวิธีการทำปุ๋ยจากเศษอาหาร ขั้นที่ 4 ออกแบบและปฏิบัติการ 9. นักเรียนระบุอุปกรณ์ ส่วนประกอบที่จะทำปุ๋ยจากเศษอาหาร และเขียนขั้นตอนกระบวนการปฏิบัติงาน 10. นักเรียนแต่ละกลุ่มลงมือทำตามขั้นตอนที่ได้วางแผนไว้ ขั้นที่ 5 ทดสอบ 11. นักเรียนแต่กลุ่มนำปุ๋ยที่ได้ไปใข้ประโยชน์ ครูประเมินการทำปุ๋ยของแต่ละกลุ่ม โดยใช้เกณฑ์ที่ตั้งไว้ ขั้นที่ 6 ปรับปรุงแก้ไข 12. นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันวิเคราะห์ ปรับปรุงปัญหาที่เกิดขึ้น ขั้นที่ 7 นำเสนอผลลัพธ์ 13. นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอปุ๋ยจากเศษอาหารของกลุ่มตนเอง โดยอธิบายกระบวนการทำปุ๋ย ตั้งแต่การหาแหล่งวัตถุดิบ ขั้นตอนการทำ ไปจนถึงการนำไปใข้จริง รวมทั้งแนวทางการพัฒนาต่อยอดเสริมสร้างรายได้ 14.