corporatepaperwork.com
ใส่กางเกงรัด คับเกินไป อย่างเช่นกางเกงที่เป็นผ้ายีนส์ ที่การช่วยระบายอากาศนั้นไม่ค่อยดีนัก ทำให้เกิดการอับชื้นบริเวณน้องสาว และอาจติดเชื้อราได้มากถึง 3 เท่า ดังนั้นจึงควรถือคติที่ว่า ต้องแห้ง โล่งโปร่ง สบายอากาศถ่ายเทสะดวก 4. สวนล้างน้องสาว บางคนคิดว่าการสวนล้างช่องคลอดจะทำให้สะอาดมากขึ้น แต่นั่นคือความเข้าใจผิดอย่างร้ายแรง เพราะมันอาจทำให้ช่องคลอดของคุณเกิดภาวะเป็นด่าง จำนวนแบคทีเรียที่สร้างกลิ่นจึงสูงขึ้น ในขณะที่แบคทีเรียมีประโยชน์ก็ลดน้อยลง 5. ใส่แผ่นอนามัยประจำ แผ่นอนามัยไม่ควรใส่ทุกวัน หรือใช้แค่วันที่มีอาการ ตกขาว, วันท้ายๆ ที่เป็นประจำเดือนก็พอ ควรปล่อยให้จุดซ่อนเร้นของคุณได้มีการระบายอากาศบ้าง อย่าปล่อยให้อับชื้น และเมื่อใส่ก็ควรเปลี่ยนทุกๆ 2 ชั่วโมงด้วย 6. อาหารรสจัด ของหมักดอง อาหารรสจัดหรือประเภทที่มีกลิ่นฉุน ก็เป็นสาเหตุทำให้น้องสาวมีกลิ่นเหม็นเค็มได้ เช่น ปลาร้า ปูดอง เครื่องเทศ อาหารทะเล เพราะล้วนแล้วแต่มีสารที่กระตุ้นให้เกิดการ ตกขาว ส่วนการกินนมเปรี้ยวหรือโยเกิร์ต จะช่วยให้น้องสาวกลับมามีกลิ่นที่ปกติได้ ที่สำคัญคือการ ดื่มน้ำ เยอะๆ จะช่วยได้ดีที่สุด 7. ไม่ตากกางเกงในให้โดนแดด หลายคนเวลาซักกางเกงมักจะไม่ค่อยตากให้โดนแดดเท่าไร เพราะคิดว่าตากแค่ลมก็ทำให้แห้งได้ แต่ความเป็นจริงคือแสงแดดสามารถช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและลดกลิ่นอับได้ดี ที่สำคัญคือกางเกงในไม่ควรใส่เก่าเกินไป เพราะอาจเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคได้นั่นเอง เห็นมั้ยว่าพฤติกรรมใกล้ตัวต่างๆ ล้วนแล้วแต่เป็นสาเหตุใหญ่ ที่ส่งผลให้น้องสาวของคุณมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ทั้งนั้น ฉะนั้นแล้วหากไม่อยากเป็นที่รังเกียจของคนรอบข้าง ก็ต้องปฏิบัติตามและหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ซะ ก่อนที่จะกลายเป็นคนมีกลิ่นปลาเค็มติดตัว บทความแนะนำ
พุ่งไปแต่ "เป้า" ก็จะได้แค่ "เป้า" จุดสยิวของผู้ชายตามส่วนต่างๆ ในร่างกายมีให้เลือกตั้งมากมาย แต่สาวๆ ก็มักจะละเลยหรือมองข้ามเป็นประจำก็คือบริเวณด้านในของต้นขานั่นเอง ครั้งต่อไปเราขอแนะนำว่าลองลูบตรงส่วนนี้เบาๆ ระหว่างที่จูบกัน เขาจะยิ่งรู้สึกเสียวซ่านและเร่าร้อนไปตามแรงมือที่ลูบไล้เชียวค่ะ 2. จูบที่ต้นคอบ้าง บริเวณต้นคอก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ผู้ชายชอบไม่น้อย โดยเฉพาะในบางอารมณ์ที่เขาอยากเป็นผู้ถูกกระทำบ้าง สาวๆ ลองเข้าไปซุกไซ้ที่ต้นคอของเขาดูค่ะ เหมือนกับเวลาที่เขาทำให้เราอย่างไรอย่างนั้นเลย แต่เวลาที่จูบต้นคอไม่ต้องทิ้งร่องรอยจารึกไว้ เพราะผู้ชายจำนวนไม่น้อยที่ไม่ชอบการกระทำเช่นนี้อย่างยิ่งค่ะ 3. ใช้นิ้วลากอย่างแผ่วเบา ลองให้เขาได้สัมผัสรสรักจากปลายเรียวนิ้วที่ลากไปตามขอบริมฝีปากของเขาอย่างแผ่วเบา หรือจะลากผ่านส่วนอื่นๆ ของร่างกายก็ทำได้เช่นกัน เป็นวิธีทำให้ผู้ชายติดใจและได้ลุ้นอย่างตื่นเต้นว่าเราจะสัมผัสตรงส่วนไหนของเขาอีก จะไปที่หัวนมหรือน้องชายของเขาดีนะ 4. นวดกายด้วยเนื้อตัวของเรา หรือที่มักจะเรียกกันว่าเป็นการนวดตัวแบบ "Body to Body" โดยให้เขานอนหงายแล้วเราก็นอนทับบนตัวเขาอีกทีชนิดเนื้อแนบเนื้อ จากนั้นขยับตัวขึ้นลงให้ร่างกายเสียดสีกัน ส่วนผู้หญิงที่มีผมยาวนั้นให้ปล่อยผมคลอเคลียบนตัวเขาได้เลยค่ะ มองหน้าเขาอย่างยั่วยุอารมณ์ถึงขีดสุดไปเลย 5.
โชว์ความพยายาม ผู้ชายหลายคนอาจจะรู้สึกเคอะเขินที่จะต้องเดินไปง้อหรือพูดจาหวานต่อหน้าแฟนสาวในขณะที่งอนกันอยู่ แต่คุณจะปล่อยให้เธองอนแบบนี้ต่อไปจริง ๆ เหรอ ทำไมไม่แสดงความพยายามออกมาสักหน่อย อย่างน้อยก็ลองทำเป็นคลิปวิดีโอ ทำภาพ ไม่ก็โทรศัพท์ไปหาหรือส่งข้อความไปหาเธอแทนก็ได้ แล้วถ้าได้โอกาสมาแต่ง้อไม่สำเร็จ แนะนำว่าอย่าหยุดความตั้งใจขอโอกาสเธออีกครั้ง แสดงความพยายามทั้งหมดออกมาให้เธอเห็น ว่าคุณอยากจะง้อเธอจริง ๆ เชื่อเหอะว่าสิบครั้ง จะต้องมีสักครั้งที่เธอใจอ่อนแน่นอน 7. ทำในสิ่งที่เธอขอ ไม่ได้หมายความว่า คุณผู้ชายจะต้องสวมบทเป็นคนรับใช้ แล้วทำตามทุกอย่างที่ขอเธอขอนะ แต่ให้ทำสิ่งที่เธอขอเมื่อนานมาแล้วและคุณยังไม่ได้ทำให้ วิธีนี้จะทำให้แฟนสาวรู้สึกประทับใจมาก เพราะไม่คิดว่าคุณจะจำได้ แต่หากจำไม่ได้จริง ๆ ว่าเธอเคยขออะไรไว้บ้าง ก็ควรพิจารณาตัวเองแล้วข้ามข้อนี้ไปได้เลย 8. จัดเซอร์ไพรส์ไปเลย ถือเป็นการง้อที่ได้ผลดีมาก ๆ เพราะการเซอร์ไพรส์จะทำให้เธอรู้สึกประทับใจและตื่นเต้นจนลืมเรื่องราวทั้งหมดไปในชั่วพริบตา โดยคุณอาจจะนำภาพคู่หวาน ๆ จากอัลบั้มมาตกแต่งห้องให้ดูโรแมนติก จัดแสงสวย ๆ ไว้ต้อนรับตอนเธอกลับมาบ้าน แถมโชว์พิเศษที่คุณไม่เคยทำที่ไหนมาก่อนแต่เธอเป็นคนแรกที่ได้เห็นมัน หรือถ้าไม่มีเวลาเตรียมตัว ก็ลองพาเธอไปเที่ยวในที่ที่เธออยากไปก็ได้ เท่านี้ก็เป็นเซอร์ไพรส์เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ทำให้เธอรู้สึกดีได้เหมือนกัน แต่แนะนำให้ลองใช้วิธีอื่น ๆ ช่วยดูก่อน เพราะถ้าเธอยังไม่ยอมคุยกับคุณ วิธีนี้อาจจะล่มก่อนได้ 9.
กับวิธีดูแลและทำความสะอาดน้องชายของคุณๆ ไม่ให้เน่า เหม็น มีกลิ่นโชย หรือกลิ่นอับไม่พึงประสงค์ที่บริเวณอวัยวะเพศ จนเหมือนชีวิตตกอับยามผู้หญิงก้มไปใช้งาน เพราะจุดนี้ถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญ ไม่แพ้สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้าของฝ่ายหญิง ที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ ซึ่งกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข บอกไว้อย่างชัดเจนและดีเยี่ยม ไปค่ะ!
อ่าน 44, 534 ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่สาวๆ ทุกคนไม่ควรมองข้าม สำหรับเรื่องกลิ่นไม่พึงประสงค์ของน้องสาว หรือจุดซ่อนเร้น ที่หากทำพฤติกรรมผิดๆ ก็อาจส่งผลทำให้เกิดกลิ่นเค็ม หรือที่หลายๆ คนชอบเรียกว่ากลิ่นปลาเค็มนั่นแหละ และบางทีเจ้าตัวอาจไม่รู้ตัวซ้ำว่าตัวเองมีกลิ่นนั้นอยู่ ซึ่งถือเป็นกลิ่นที่บ่งบอกถึงความไม่เอาใจใส่จุดซ่อนเร้น กลายเป็นกลิ่นที่คนรอบข้างรังเกียจเลยล่ะ ดังนั้นวันนี้ GangBeauty จึงมีเรื่องราวที่หลายคนยังไม่รู้มาเปิดเผย ไขความกระจ่างกัน เกี่ยวกับสาเหตุใหญ่ตัวการที่ทำให้เกิดกลิ่นปลาเค็มของน้องสาว จะมีอะไรบ้างนั้นไปดูพร้อมๆ กันเลยจ้า.. 1. โกนขนน้องสาวทิ้ง แท้จริงแล้วขนน้องสาวมีประโยชน์มาก เพราะมีหน้าที่ป้องปกเชื้อโรคที่จะเข้าไปสู่ช่องคลอดของสาวๆ ได้ และช่วยลดแรงเสียดทาน ช่วยควบคุมอุณหภูมิแก่อวัยวะ และควรจะตกแต่งด้วยการตัดเล็มปลายเท่านั้น ไม่ควรโกนเด็ดขาด 2. เช็ดผิดวิธี สาวๆ หลายคนยังใช้วิธีการทำความสะอาดน้องสาวที่ผิดๆ อยู่ คือการเช็ดด้วยกระดาษทิชชูจากท้ายมาหน้า ซึ่งถือเป็นอีกสาเหตุใหญ่ที่ทำให้น้องสาวมีกลิ่นเหม็นเค็ม และอาจจะทำให้ติดเชื้อง่ายด้วย เพราะการเช็ดจากหลังมาหน้าอาจปนเปื้อนอุจจาระเข้าไปในช่องคลอด หรือการใช้แป้งเด็กทาที่จุดซ่อนเร้น หรือโรยที่กางเกงใน ก็ถือว่าเป็นเรื่องผิดมหันต์ เพราะมันอาจทำให้คุณกลายเป็นมะเร็งได้โดยไม่รู้ตัว 3.
ศึกษานิสัยใจคอของหนุ่มรุ่นน้องที่คุณแอบชอบ "รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง" สุภาษิตนี้ยังคงใช้ได้เสมอ การจีบหนุ่มรุ่นน้องที่คุณแอบชอบก็เช่นเดียวกันค่ะ อันดับแรกคุณควรจะรู้ก่อนว่าคนที่คุณแอบชอบเขาเป็นคนยังไง มีนิสัยแบบไหน ชอบอะไร หรือไม่ชอบอะไร ทั้งนี้อาจจะแอบสังเกต หรือแอบถามจากเพื่อน ๆ ของเขาก็ได้ และเมื่อเข้าใจไลฟ์สไตล์ของเขาแล้ว ทีนี้คุณจะได้ทำตัวถูกและรู้ว่าควรที่จะเข้าหาเขาแบบไหนนั่นเอง 3. เข้าทางเพื่อน ผู้ชายส่วนใหญ่มักจะเป็นคนติดเพื่อน ไม่แน่บางทีเพื่อนของเขาอาจจะช่วยเป็นพ่อสื่อที่ดีให้กับคุณก็ได้นะ ดังนั้นนอกจากเข้าหาหนุ่มรุ่นน้องที่คุณแอบชอบแล้ว คุณควรจะเข้าหาเพื่อนของเขาด้วย อย่างเช่น เข้าไปตีสนิท คุยสนุกสนาน เฮฮา ซึ่งถ้าคุณตีสนิทกับกลุ่มเพื่อน ๆ ของรุ่นน้องได้แล้วละก็ ก็เหมือนกับการทำลายกำแพงช่วยให้คุณประสบความสำเร็จไปได้อีกขั้นหนึ่ง เพราะนอกจากหนุ่มรุ่นน้องจะไม่รู้สึกเขินเพื่อนเมื่ออยู่กับคุณแล้ว เพื่อน ๆ ของเขายังจะสนับสนุนและเชียร์คุณอีกด้วย 4. ทำให้เขาดูเหมือนเป็นคนพิเศษ ร้อยทั้งร้อยผู้ชายส่วนใหญ่ ใคร ๆ ก็อยากจะเป็นคนพิเศษทั้งนั้นแหละ โดยเฉพาะผู้ชายที่อายุน้อยกว่ายิ่งต้องการการเอาใจเป็นพิเศษ ดังนั้นคุณจะต้องทำให้เขารู้ว่าเขาคือคนพิเศษสำหรับคุณ เช่น มอบของขวัญให้ในวันสำคัญ อย่างเช่น วันปีใหม่ หรือในวันเกิดของเขา เป็นต้น หรืออาจจะเริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ อย่างการให้ความสนใจในสิ่งที่เขาทำหรือพูด เท่านี้เขาก็จะรู้สึกดีและรู้สึกว่าคุณให้ความสำคัญกับเขาแล้วล่ะ 5.
การที่น้องสาวของผู้หญิงไร้ขน มันทำให้ดูสะอาดตา แต่ผู้หญิงส่วนใหญ่มักไม่ชอบ เพราะเวลาขนใหม่งอกจะมีอาการเจ็บคันๆ จนทำให้เกิดการระคายเคือง อีกทั้งยังทำให้เธอดูเจนสนาม แล้วจะพูดอย่างไรให้เธอยอมโกนขนตรงนั้นทิ้งล่ะ 1. เปิดใจแล้วพูดตรงๆ วิธีนี้ถือว่ามีโอกาสจะได้ผลดีก็ต่อเมื่อเธออยู่ในอารมณ์ผ่อนคลาย ไม่ได้กำลังหงุดหงิดใจกับอะไรอยู่ ลองอธิบายถึงเหตุผล และความรู้สึกของคุณ บอกกับเธอไปตรงๆ หรือจะอาศัยช่วงพูดคุยเรื่องลับๆของคุณทั้งคู่ แล้วลองพูดเล่นๆกับเธอไปว่า อยากเห็นน้องสาวเธอชัดๆแบบไม่มีขน เพราะทำให้คุณตื่นตัวเต็มที่ บางทีเธออาจจะใจอ่อนยอมทำเพื่อคุณ 2. AV ช่วยได้ การใช้หนังโป้กระตุ้นอารมณ์ ถือว่าเป็นวิธีที่ดีอีกวิธีหนึ่ง เมื่อคุณและเธอเริ่มเล้าโลมกันใกล้ได้ที่ ลองเปิดหนังที่มีช่วงโกนขนหมออ้อยให้เธอดู เพื่อให้เธอรู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะกำจัดขนตรงนั้นออกไป และการใช้หนังเข้ามาช่วย เธออาจเคลิ้มกับคำขอของคุณจนยอมโกนพุ่มหญ้าที่หว่างขาเพื่อเสริมความเซ็กซี่ตามอย่างหนังโป๊ที่เปิดดูด้วยกัน 3. โกนให้กันและกัน หากลองทั้ง 3 ข้อ แต่เธอยังไม่มีทีท่าจะทำตาม ให้คุณลองยื่นข้อเสนอ เธอเอาไงฉันเอาด้วย โดยคุณโกนขนให้เธอ แล้วเธอก็โกนให้คุณเช่นเดียวกัน ทำแบบนี้เธอจะได้ไม่รู้สึกว่าถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียวและไม่เขินอายที่ต้องโล้นอยู่คนเดียว 4.
กิน อะไร จิมิ หอม คำตอบคือ แครนเบอร์รี่ (Cranberry) แครนเบอร์รี่ และ น้ำแครนเบอร์รี่ เป็นตัวดักจับแบคทีเรียในระบบทางเดินปัสสาวะที่ดี นอกจากนี้ยังช่วยรักษาระดับค่า pH ให้สมดุล ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี เพราะจะทำให้จิมิของเรา หอม มีรสชาติหวานดี ไม่มี ความสกปรก หรือ เชื้อโรคเข้าไปทำให้บรรยาเพลงรัก หม่นหมอง และ สำหรับ ผู้ชายน้ำแครนเบอร์รี่ยังช่วยเพิ่มความเป็นกรดของร่างกายซึ่งจะช่วยปรับสมดุลความเป็นด่างของน้ำอสุจิ เป็นผลทำให้การกินแครนเบอร์รี่สามารถลดความเค็มและเพิ่มความหวานในน้ำอสุจิด้วย 3. กินอะ ไร จิมิ หอม คำตอบคือ สับปะรด (Pineapple) อา หารที่ทำให้จิมิหอมหวานอร่อย กิน อะไร จิมิ หอม วันนี้ มีคำตอบ สัปปะรด มีรสหวานฉ่ำ และมีกลิ่นหอม และ รู้ไหมคะว่าสัปปะรด ยังช่วยให้น้องสาว หรือ จิ๊มิ๊ เรามีรสชาติหวานอีกด้วย เพราะสัปปะรด ไปสร้างความสมดุลในค่า pH ในช่องคลอดเราทำให้มีรสชาติ หวาน กลิ่น หอม ขึ้น รับรองว่าเพลงรักไม่สะดุดเพราะกลิ่นแน่นอนค่ะ 4. กิน อะไร จิมิ หอม คำตอบคือ มันหวาน (Sweet Potatoes) มันหวาน มีประโยชน์มากมาย แก่ผู้หญิง ทั้งช่วยให้ผนังช่องคลอดแข็งแรง ปรับฮอร์โมนผู้หญิง ช่วยทำให้ร่างกายของผู้หญิงอุดมสมบูรณ์ด้วย และ รวมถึง กันกลิ่นเหม็นปลาเค็ม ในช่องคลอด เพราะฉะนั้นหากรู้ตัวว่าจะร่วมเพลงรักกับคนรักอย่าลืมกินมันหวานเยอะๆนะคะ 5.
บางครั้งความเคยชินและของใช้ใกล้ตัวที่ใช้อยู่ทุกวัน อาจเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้น้องสาวของเราไม่ปลอดภัยก็ได้นะคะ ลองสังเกตดูว่าเรามีอาการระคายเคือง บวม แดงบริเวณจุดซ่อนเร้นทั้งที่ใส่เสื้อผ้าสะอาดและใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ปลอดภัยหรือเปล่า หากว่า "ใช่" ก็รู้ไว้เลยค่ะว่าผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ทำความสะอาดร่างกายหรือบำรุงผิวคือตัวการที่ทำร้าย "น้องสาว" ของเรา tumblr Propylene Glycol อันตรายต่อจุดซ่อนเร้น?
หมั่นเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อย ๆ ในวันนั้นของเดือน สิ่งสำคัญที่สุดก็คงเป็นเรื่องของการรักษาความสะอาด โดยหากเป็นไปได้ให้พยายามเปลี่ยนผ้าอนามัย ทุก ๆ 3-4 ชั่วโมง ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะใส่ผ้าอนามัยผืนเดียวตลอดทั้งวันโดยไม่เปลี่ยน โดยเฉพาะคนที่แพ้ผ้าอนามัยง่ายๆยิ่งต้องเปลี่ยนให้บ่อยกว่าคนทั่วไป เพราะหากใช้ผ้าอนามัยผืนเดิมนานๆ อาจจะทำให้เกิดการอับชื้น และเป็นสาเหตุให้เกิดผดผื่น หรือระคายเคืองได้ง่าย หากไม่เป็นการลำบากจนเกินไป ก็เปลี่ยนเถอะค่ะเพื่อสุขภาพของน้องสาวของคุณ 2. ระหว่างเปลี่ยนผ้าอนามัย ควรทำความสะอาดด้วยทุกครั้ง ในขณะที่เปลี่ยนผ้าอนามัยแต่ละครั้ง สาว ๆ ควรให้ความใส่ใจมันให้มาก โดยเฉพาะเรื่องการทำความสะอาด ทั้งนี้ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำยาพิเศษ เพียงแค่ใช้น้ำสะอาดล้างธรรมดาแล้วซับให้แห้งก็เพียงพอแล้ว ที่สำคัญไม่ควรใช้สบู่หรือใช้น้ำยาล้างจุดซ่อนเร้นเพราะอาจจะทำให้สมดุลของแบคทีเรียบริเวณนั้นเปลี่ยนแปลงไปและเป็นสาเหตุของการติดเชื้อได้ นอกจากนี้ ไม่ควรถูหรือฉีดน้ำแรง ๆ เพราะอาจทำให้จุดซ่อนเร้นเกิดการระคายเคืองมากขึ้นได้ [ads] 3. ไม่ควรสวมกางเกงหรือกางเกงชั้นในที่รัดน้องสาวแน่นจนเกินไป การสวมกางเกงที่รัดแน่น ตึงเป้า นอกจากจะทำให้อึดอัดแล้ว ยังทำให้น้องสาวเกิด การเสียดสี และอับชื้นได้ง่ายอีกด้วย สิ่งที่เหมาะสมที่สุด คือ ควรใส่กางเกงที่สบาย ๆ ไม่รัดหรือหลวมจนเกินไป หรือถ้าจะให้ดีไปกว่านั้น ก็ควรเป็นกางเกงใน ผ้าฝ้าย เพราะสามารถช่วยระบายอากาศได้ดี ไม่เกิดการอับชื้นได้ง่าย 4.